ถั่วดาวอินคา หรือต้นองุ่นเขียว sacha inchi มีมากว่า 3,000 ปี จากประเทศเปรู ในทวีปอเมริกาใต้
ต่อมาได้มีการตกลงแลกเปลี่ยนสินค้าและเมล็ดพันธ์กับประเทศจีน
ซึ่งประเทศจีนก็ได้นำเมล็ดพันธ์เข้ามาทดลองปลูกทางภาคเหนือของไทย
ด้วยเหตุผลที่ว่า สะดวกในการดูแลและการขนส่ง รวมทั้งสภาพอากาศที่เหมาะสม
ต่อมาก็เริ่มแพร่หลาย สู่ภาคอิสานภาคตะวันออกและภาคเหนือตอนล่างของไทย
จวบจนถึงทุกวันนี้ก็เริ่มมีการปลูกกันอย่างแพร่หลาย ในหลายๆประเทศ
วิธีการปลูก
●ต้องปลูกโดย ระบบเกษตรอินทรีย์ เท่านั้น โดยการให้น้ำใช้แบบระบบน้ำหยด ( ห้ามใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมี )
●ต้นถั่วอินคาหรือองุ่นเขียวมีอายุยืนยาวตั้งแต่ 15-50 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลของเกษตรกรเอง
●ระยะห่างระหว่างต้น 2 x 4 เมตร 1 ไร่ประมาณ 200 ต้น
●ระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิต ประมาณ 7-8 เดือน นับจากลงกล้าปลูก (ให้ผลตอบแทนที่สูงมากและดูแลง่าย)
●
ทางศูนย์พัฒนาส่งเสริมเกษตรกรปลูกต้นถั่วอินคาภาคอิสานและภาคตะวันออก จัด
โปรโมชั่นส่งเสริม แจกเมล็ดพันธุ์ถั่วอินคา ฟรี
ให้กับเกษตรกรที่ทำสัญญาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ไปจนถึงเดือน มีนาคม 2557
●ราคารับซื้อ เมล็ดกะเทาะเปลือกกิโลกรัมละ สี่สิบ บาททำสัญญาประกันราคาห้าปี ต่อสัญญาสี่ครั้ง
ประโยชน์ของต้นถั่วอินคาหรือองุ่นเขียว
ยอดของต้นถั่วอินคาหรือองุ่นเขียว : สามารถนำไปประกอบอาหาร ผัดก็มีรสชาดิอร่อย มีโอเมก้า 3 6 9 และวิตามิน A E
เมล็ดถั่วอินคาหรือองุ่นเขียว : นิยมนำมาสกัดเป็นน้ำมัน
ซึ่งมีประโยชน์สำหรับมนุษย์มี เพราะมีโอเมก้า 3 6 9 และวิตามิน A
E ซึ่งเป็นที่ต้องการของต่างประเทศ
ทำไมต้องปลูกถั่วอินคาหรือต้นองุ่นเขียว sacha inchi :
เมื่อเทียบกับพืชเศรษฐ์กิจตัวอื่นๆ ต้นถั่วอินคา
จะให้ผลตอบแทนต่อไร่ที่สูงกว่าพืชตัวอื่นๆมาก (ให้ผลผลิตเมล็ดกะเทาะเปลือก
12,000 - 60,000 บาทต่อไร่ต่อปี)
และปัจจุบันตลาดมีความต้องการเมล็ดถั่วอินคาเป็นอย่างมากและก็ยังไม่เพียงพอ
กับความต้องการของตลาดและการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์
ต้นถั่วอินคาหรือต้นองุ่นเขียว sacha inchi
จึงเป็นที่ต้องการของตลาดโลกและตลาด AEC เป็นอย่างมาก ปลูกเพียง 7-8 เดือน
สามารถเก็บฝัก ขายได้แล้ว จึงเป็นที่มาชื่อถั่วอินคา Sacha inchi
ซึ่งลงทุนในระยะเวลาที่สั้น แต่สามารถเก็บเกี่ยวฝักแห้งได้ยาวนานถึง 15- 50
ปี จะเห็นได้ว่าประโยชน์ต้นถั่วอินคาหรือต้นองุ่นเขียวsacha inchi
มีประโยชน์ทุกๆส่วน แถมมีอายุยืนยาว
จึงเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญที่ภาครัฐและหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ที่จะต้องให้ความรู้และให้การสนับสนุน ทางด้านการเพาะปลูก
การตลาดเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรไทยที่จะต้องแข่งขัน
สินค้าทางด้านการเกษตรได้และเพื่อที่จะรองรับตลาด AEC
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าและเราก็เป็นหนึ่งในสมาชิกนั้น
จากพันทิพย์ดอทคอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น